สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) โดย พลอากาศตรี จเด็ด คูหะก้องกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ และคณะผู้แทน สกมช. ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดย นายวิบูลย์ ภัทรพิบูล ผู้ช่วยเลขาธิการสายเทคโนโลยีดิจิทัล สํานักงาน ก.ล.ต. ณ ห้องประชุม 1501 ชั้น 15 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พลอากาศตรี จเด็ด คูหะก้องกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ กล่าวว่า “สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้มีการเผยแพร่ประกาศหลายฉบับที่ออก โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ประกาศของคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ประกาศของคณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (กกม.) และประกาศของ สกมช. โดยมีผลใช้บังคับกับหน่วยงานควบคุมหรือกำกับดูแล (Regulator) หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศและหน่วยงานของรัฐ ซึ่ง สกมช. ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ได้เชิญมาพูดคุยหารือเพื่อร่วมกันวางแนวทางการปฏิบัติตามประกาศได้อย่างถูกต้องครบถ้วน โดย สำนักงาน ก.ล.ต. ถือว่าเป็นหน่วยงานของรัฐ และได้รับมอบหมายเป็น Regulator ที่จะต้องกำกับดูแลหน่วยงานภายใต้”
นายวิบูลย์ ภัทรพิบูล ผู้ชวยเลขาธิการสายเทคโนโลยีดิจิทัล สํานักงาน ก.ล.ต. กล่าวว่า “สํานักงาน ก.ล.ต. ให้ความสําคัญในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วย Cybersecurity ทีมีผลใช้บังคับแล้วตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ พ.ศ. 2562 และตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพือถือปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศ ทั้งนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นว่ากฎหมายว่าด้วย Cybersecurity เป็นเรื่องที่สําคัญ และการปฏิบัติที่เป็นไปตามที่ กฎหมายกำหนดจะช่วยให้ภาคตลาดทุนรักษาไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือได้ โดยสํานักงาน ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่าการจัดประชุมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง สกมช. และ สํานักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้การถือปฏิบัติเป็นไปตามเจตนารมณ์ตามที่กฎหมายว่าด้วย Cybersecurity กําหนด จะช่วยผลักดันให้การดําเนินงานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในภาคตลาดทุน มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
